สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ  บ้านเสาแดง

ความเป็นมา/พระราชดำริ

    วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2547  สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถได้เสด็จฯทอดพระเนตรสภาพพื้นที่  บ้านลีซอเสาแดง  หมู่ที่ 7   ตำบลแจ่มหลวง    อำเภอแม่แจ่ม   จังหวัดเชียงใหม่   ซึ่งตั้งอยู่บริเวณดอยขุนห้วยยา   เนื่องจากทรงทราบว่า พื้นที่ป่าแถบนั้นในอดีตได้ถูกแผ้วถางไปจำนวนหนึ่ง   โดยราษฎรบ้านลีซอเสาแดง     เพื่อใช้พื้นที่ปลูกฝิ่น และทำไร่เลื่อนลอย แต่เมื่อทางราชการได้ทำการปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด    ราษฎรบ้านลีซอเสาแดงจึงเลิกปลูกฝิ่น    และทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการทำการเกษตรแต่เพียงอย่างเดียว     โดยเฉพาะการปลูกพืชแบบไร่เลื่อนลอยหรือไร่หมุนเวียน   และผลผลิตที่ได้ต่ำไม่เพียงพอต่อการบริโภคในชุมชน    ทำให้เมื่อสิ้นฤดูกาลเพาะปลูกราษฎรบ้านเสาแดงโดยเฉพาะคนหนุ่มสาว     จึงละทิ้งถิ่นฐานไปหางานทำในตัวเมืองเป็นจำนวนไม่น้อยเพื่อหารายได้
    นอกจากนั้นยังพบว่าบ้านลีซอเสาแดงยังขาดโอกาสทางการศึกษา  และการบริการทางสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน  ดังนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ    ให้จัดตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงขึ้น    โดยให้ราษฎรบ้านลีซอเสาแดง   และราษฎรบ้านกะเหรี่ยงห้วยเขียดแห้งได้เข้ามาร่วมอยู่ในโครงการ 
    สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านเสาแดง    จึงได้ถูกจัดตั้งขึ้นและถือเอาวันที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ   พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินมายังบ้านเสาแดง        คือวันที่  14  กุมภาพันธ์  2547    เป็นวันเริ่มต้นการดำเนินงานของสถานีฯ
พระราชดำริเมื่อวันที่ 19 เดือน มกราคม พ.ศ. 2549
1. ให้สร้างโรงฝึกศิลปะชีพ จำนวน 2 หมู่บ้าน ๆ ละ 1 โรงพร้อมกี่ทอผ้า (กี่กระตุก) โรงละ 20 กี่ และจะส่งครูมาฝึกสอนให้ราษฎรด้วย
2. ให้ส่งราษฎรเข้ารับการฝึกอบรมการทำเครื่องเงินและทอผ้า หมู่บ้านละ 4 คน ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
3. ทรงมีพระราชเสาวนีย์กับผู้ช่วยเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ให้จารึกไว้ให้คนรุ่นหลังทราบว่า การจัดตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงอันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้น พระราชประสงค์ประการหนึ่ง (ในหลาย ๆ ประการ) คือ การสร้างงานให้เกิดขึ้นในท้องถิ่นทำให้คนรุ่นใหม่(หนุ่มสาว)มีงานทำ มีอาชีพให้เขาได้ทำไปก่อนเป็นการช่วยเหลือครอบครัวซึ่งทรงคิดว่า สถานีฯ มีงานให้เขาทำก็เท่ากับช่วยเขา และทรงตรัสว่า “เวลานี้ประเทศไทยน่ากลัวที่สุดคือการไม่มีอาชีพ ไม่มีงานทำ การที่เราทำอย่างนี้ (สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง) ได้ช่วยเขาก็เท่ากับว่ามีงานให้เขาทำ”  

ที่ตั้งโครงการและข้อมูลพื้นฐาน

หมู่ 7  ต.แจ่มหลวง  อ.แม่แจ่ม  จ.เชียงใหม่

วัตถุประสงค์ของโครงการ

1.  เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร  ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
2. ให้ราษฎรเรียนรู้การทำการเกษตรอย่างถูกวิธีในพื้นที่จำกัด แต่ให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น   เพียงพอต่อการเลี้ยงครอบครัว เพื่อหยุดยั้งการบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อขยายที่ทำกิน
3.  อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ต้นน้ำ ลำธารบริเวณดอยขุนห้วยยา  และฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อมโทรมให้กลับคืนสมบูรณ์ดังเดิม
4.  เพื่อสร้างชุมชนให้มีความมั่นคง  ปลอดจากยาเสพติด

เป้าหมายโครงการ

ชุมชนบ้านเสาแดงและบ้านห้วยเขียดแห้ง ได้รับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมตลอดจนมีการอนุรักษ์จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

งบประมาณ

1. งบปกติ  จำนวน     120,000          บาท
2. งบกปร. จำนวน     3,066,500       บาท
3. งบอื่น ๆ(ระบุ) จำนวน         -         บาท

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

ช่วยสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการว่างงานและความยากจนของราษฎร  ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด  ตลอดจนปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะป่าไม้  ดิน  และน้ำได้เป็นอย่างดี

ผลการดำเนินงาน

กิจกรรม

หน่วยนับ

ผล

งบประมาณ

ผลลัพธ์

1.  งานอำนวยการและบริหารโครงการ

 

 


2. งานเสริมสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ให้แก่ชุมชน 2 หมู่บ้าน

 

 





3.  ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์  4  อย่าง

งาน

 

 



งาน

 






ไร่

 

 

 

1

 

 



1

 






100

 

 

 

 

958,505

 

 

 


50,000

 

 





340,000

 

 

         พื้นที่สถานีฯได้รับการดูแลบำรุงรักษาด้านปัจจัยพื้นฐานต่างๆ อาทิ ระบบน้ำใช้ภายในสถานี การซ่อมแซมอาคารสิ่งปลูกสร้างฯลฯ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในด้านการบริหารงานให้กับหน่วยงานร่วมปฏิบัติ ตลอดจนการประสานงานกับชุมชนเป้าหมาย

      ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการช่วยกันอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ของชุมชน และเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์

          สถานีฯได้ดำเนินการปลูกป่าเนื้อที่  100  ไร่  บริเวณดอยขุนห้วยยา  โดยใช้พันธุ์ไม้ที่ปลูกซึ่งให้ประโยชน์ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กล่าวคือ ไม้สร้างบ้านเรือน  ไม้ฟืน  และไม้ใช้สอย  โดยให้ประโยชน์อย่างที่ 4 คือ อนุรักษ์ดินและน้ำ  ชนิดพันธุ์ไม้ได้แก่  หว้า    ทะโล้    เติม    มะแฟน     นางพญาเสือโคร่ง    เสี้ยวดอกขาว  สนสามใบ  มะขามป้อม ฯลฯ

กิจกรรม

หน่วยนับ

ผล

งบประมาณ

ผลลัพธ์

4.  ปลูกป่าทั่วไป

 



5.  ปลูกสร้างสวนป่าหวาย





 

6.  ปรับปรุงระบบนิเวศต้นน้ำ

ไร่




ไร่






ไร่

200




100






500

500,000

 



350,000

 





330,000

         สถานีฯ  ได้ดำเนินการปลูกป่าเนื้อที่  200  ไร่ ที่บริเวณดอยขุนห้วยยาเช่นกัน  ซึ่งพื้นที่เดิมเป็นไร่เลื่อนลอยเก่า  เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรม

         ปลูกป่าหวายเนื้อที่  100 ไร่   ที่บริเวณดอยขุนห้วยยาตามหุบเขาที่ติดกับลำห้วย 
พันธุ์หวายที่ปลูกคือ  หวายหนามขาว

        ในอนาคตหลังจาก 3-5 ปี เมื่อกล้าไม้เจริญเติบโต ประโยชน์ที่จะได้รับคือ
-  พื้นที่ป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรมบริเวณดอยขุนห้วยยา ก็จะฟื้นคืนสภาพเป็นป่า ทำให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศและเกิดความหลากหลายทางชีวภาพ
-  นอกเหนือจากประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินและน้ำแล้ว ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  ประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับก็คือแหล่งทรัพยากรไม้ สำหรับใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นไม้สร้างบ้านเรือน  ไม้ฟืน เป็นต้น
-  เนื่องจากพื้นที่ตามหุบเขาของดอยขุนห้วยยาเป็นแหล่งของไม้จำพวกหวายมาก่อน  ดังนั้นการปลูกหวายจึงเป็นการฟื้นฟูสภาพนิเวศเดิม ๆ ของพื้นที่บริเวณดังกล่าว และหวายจัดเป็นไม้เศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่ง เพราะสามารถนำมาทำเครื่องจักสานและเฟอร์นิเจอร์  สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับชุมชนได้ในอนาคต

 

กิจกรรม

หน่วยนับ

ผล

งบประมาณ

ผลลัพธ์

7.  เพาะชำหญ้าแฝก

 

 

8.  ฝายต้นน้ำแบบผสมผสาน

 

 

 

9.  ฝายต้นน้ำแบบกึ่งถาวร

 

 

 

10. ปรับปรุงถนนป่าไม้

กล้า

 

 

แห่ง

 



แห่ง

 

 

 

กิโลเมตร

50,000

 

 

50

 



2

 

 

 

10

82,500

 

 

250,000

 

 

 

50,000

 

 

 

155,000

ลดการชะล้างพังทลายของดิน ทำให้ดินมีการเกาะยึดตัวดีขึ้นซึ่งเป็นวิธีการที่ประหยัดที่สุดถ้าเทียบกับการก่อสร้างทางวิศวกรรม

สามารถดักตะกอนดินและชะลอการไหลของน้ำ ทำให้เกิดความชุมชื้นกับพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ฝายและเมื่อมีความชื้นสะสมไว้มาก การเกิดไฟป่าในหน้าแล้งก็จะลดความรุนแรงลง หรือไม่เกิดเลยก็เป็นได้

สำหรับฝายขนาดกึ่งถาวร สามารถกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์เช่นที่ บ้านห้วยเขียดแห้ง น้ำที่กักไว้จะทดเข้าพื้นที่นาดำของชาวบ้าน   ส่วนฝายอีกแห่งหนึ่งที่บ้าน
เสาแดงก็ใช้กักน้ำไว้สำหรับทำระบบประปาภูเขา

- ถนนลำลองซึ่งเสียหายมากในช่วงฤดูฝนได้รับการซ่อมแซมปรับปรุงให้สัญจรไปมาได้สะดวกขึ้น
- ถนนภายในหมู่บ้านได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น

ปัญหาอุปสรรค/แนวทางแก้ไข

- การคมนาคม ค่อนข้างลำบากในช่วงฤดูฝน สภาพถนนจะเสียหายมากทำให้การเดินทางใช้ระยะเวลานาน นอกจากนี้ยังส่งผลให้ยานพาหนะที่ใช้(รถยนต์และรถบรรทุก) ชำรุดสึกหรอและต้องซ่อมแซมบ่อยครั้ง

หน่วยงานหลัก/ผู้ประสานโครงการ

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16
นายเจษฎา แก้วโชติ ตำแหน่ง นักวิชาการป่าไม้ 7ว. สังกัด ส่วนจัดการต้นน้ำ

หน่วยงานร่วมโครงการ

-