ความเป็นมา
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2543 สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จ ฯ เยี่ยมราษฎรบ้านแปกแซม ตำบลเปียงหลวง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และทอดพระเนตรสวนมันอะลู ทรงพบว่าทั้ง 2 จุด เป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญ ได้แก่ ห้วยหกหลวง ห้วยนายาว และห้วยนาอ่อน ป่าไม้ถูกบุกรุกทำลายใช้เป็นที่ทำกิน ปลูกมันฝรั่งและสวนลินจี่ และมีแนวโน้มว่าจะถูกแผ้วถางไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนประชากรของหมู่บ้านที่อยู่โดยรอบ ได้แก่ บ้านแปกแซม บ้านหินแตว บ้านหลักแต่ง และบ้านเปียงหลวง นอกจากนี้หมู่บ้านดังกล่าว ยังเป็นพื้นที่ชายแดนล่อแหลมต่อปัญหายาเสพติด ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ จึงได้มีพระราชเสาวนีย์แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไข โดยสรุปประเด็นสำคัญของพระราชเสาวนีย์ คือ
1) ให้พัฒนาด้านการเกษตร โดยจัดตั้ง สถานีสาธิตและถ่ายทอด การเกษตร ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม ตามพระราชดำริ เพื่อสาธิต ถ่ายทอดให้ความรู้ และส่งเสริมการปลูกพืชที่เหมาะสมและถูกต้อง รวมทั้งส่งเสริมด้านการปศุสัตว์แล้วขยายผลการดำเนินงานจากสถานี ฯ เข้าไปพัฒนาหมู่บ้านและความเป็นอยู่ของราษฎรในบริเวณใกล้เคียงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
2) ให้พัฒนาแหล่งน้ำ อนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า เพื่อให้มีน้ำสำหรับใช้ในการเกษตร รวมทั้งอุปโภคบริโภคของราษฎรในพื้นที่อย่างเพียงพอ
ที่ตั้งโครงการและข้อมูลพื้นฐาน
1. ชื่อโครงการ : สถานีสาธิตและถ่ายทอดการเกษตร ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม ตามพระราชดำริ บ้านแปกแซม ตำบลเปียงหลวง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่
2. สถานที่ดำเนินการ : บ้านแปกแซม หมู่ที่ 6 ตำบลเปียงหลวง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่
วัตถุประสงค์ของโครงการ
1 เพื่อส่งเสริมอาชีพและเพิ่มศักยภาพ ด้านการเกษตรกรรม การปศุสัตว์ ให้เพียงพอต่อการดำรงชีพของราษฎรในพื้นที่เป้าหมาย
2 เพื่อจัดหาและปรับปรุงแหล่งน้ำไว้ใช้ในการบริโภคอุปโภค และการเกษตรกรรมในพื้นที่
3 เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำสร้างความชุ่มชื้นครอบคลุมพื้นที่
4 เพื่อจัดระเบียบชุมชนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน บนความพอเพียงตามวิถีชีวิตของชนเผ่า รวมถึงสร้างจิตสำนึกความเป็นคนไทย
เป้าหมายโครงการ
1 จัดตั้งสถานีสาธิตและถ่ายทอดการเกษตร ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม ตามพระราชดำริ
2 ขยายผลจากสถานี ฯ ให้ราษฎรสามารถนำไปผลิตและดำรงชีพได้อย่างพออยู่พอกิน
3 รักษาสภาพป่าต้นน้ำ และพื้นที่ป่าให้อุดมสมบูรณ์เข้าสู่ระบบนิเวศน์วิทยา
แผนงานโครงการ/แนวทางดำเนินการ
1 พื้นที่การดำเนินงา น 19,415ไร่ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน
1.1 พื้นที่สถานีสาธิต ฯ 1,040 ไร่ (5%)
1.2 พื้นที่อยู่อาศัยและทำกิน 6,375 ไร่ ( 33%)
1.3 พื้นที่ป่าเพื่อใช้สอย 4,000 ไร่ (21%)
1.4 พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 8,000 ไร่ (41%)
2 พื้นที่จัดตั้ง สถานี ฯ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
2.1 พื้นที่ปศุสัตว์
2.2 พื้นที่การเกษตรกรรม
2.3 พื้นที่ป่าไม้
3 จัดระเบียบชุมชนในพื้นที่โครงการ ฯ เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมการขยายตัวชุมชนอันจะก่อให้เกิดปัญหาในอนาคต
4 การปฏิบัติงานในสถานี ฯ จัดจ้างแรงงานจากราษฎรในพื้นที่และหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และมีประสบการณ์เพียงพอที่จะสามารถนำไปปฏิบัติเองได้
5 การขยายผลจากสถานี ฯ เข้าไปพัฒนาหมู่บ้าน จะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยดำเนินการให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตชาวบ้าน และขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม
งบประมาณ
-
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1 ราษฎร มีรายได้จากการเข้ามารับจ้างเป็นแรงงานในสถานี
2 ราษฎรได้รับการเรียนรู้การฝึกฝน และสามารถนำไปขยายผลในการดำรงชีพของตนเองและครอบครัว
3 สามารถลดปัญหายาเสพติดในพื้นที่ได้ในอีกระดับหนึ่ง
4 ราษฎรมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้รับสัญชาติไทยอย่างถูกต้อง
5 สามารถอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำทำให้เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับป่า
ผลการดำเนินงาน
ผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงาน
-
หน่วยงานหลัก/ผู้ประสานงาน
กองพลพัฒนาที่ 3
พันโท ธีรยุทธ ลิ่มอรุณ หัวหน้าฝ่ายแผนและโครงการ กองอำนวยการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
หน่วยงานร่วมโครงการ
1 กองทัพภาคที่3 โดย กองพลพัฒนาที่ 3
2 กรมการปกครอง โดย อำเภอเวียงแหง
3 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16
4 กรมวิชาการเกษตร โดย สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1
5 กรมส่งเสริมการเกษตร โดย ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงจังหวัดเชียงใหม่
6 กรมปศุสัตว์ โดย สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่
7 กรมประมง โดย ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดเชียงใหม่
8 กรมพัฒนาที่ดิน โดย สถานีพัฒนาที่ดินเชียงใหม่
9 กรมชลประทาน โดย โครงการชลประทานเชียงใหม่
10 กรมการศึกษานอกโรงเรียนโดย ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเชียงใหม่และศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทย บริเวณชายแดนจังหวัดเชียงราย
11 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
12 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32
13 กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน โดย สำนักพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์
14 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7