วันที่ 4 ก.ย. 66 ที่ ห้องปฏิบัติการจังหวัดเชียงใหม่ (POC) ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้วิดีโอคอลผ่านระบบออนไลน์ เพื่อชื่นชมและแสดงแสดงความยินดีกับ "โปรพราว" หรือ “น้องพราว” นางสาวชเนตตี วรรณแสน นักกอล์ฟสาววัย 19 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ที่สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดเชียงใหม่และประเทศไทย จากการคว้าแชมป์ในการแข่งขันกอล์ฟ รายการ “พอร์ทแลนด์ คลาสสิก” วันสุดท้าย ที่เมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีผ่าน นายประศาสน์ วรรแสน คุณพ่อของโปรพราว เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อครอบครัว โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวชื่นชมและแสดงความยินดีที่ “โปรพราว” ได้ใช้ความพยายามมุมานะฝึกฝน เสียสละเวลาฝึกซ้อม จนประสบความสำเร็จเป็นความภาคภูมิใจของชาวเชียงใหม่ และประเทศไทย ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน พร้อมทั้งเปิดเผยว่า หากกลับมาเมืองไทยในเดือนพฤศจิกายนจะมีการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ โดยในนามของชาวเชียงใหม่รู้สึกภูมิใจและยินดีกับเยาวชนคนเก่งเป็นอย่างยิ่ง ด้าน นายประศาสน์ วรรแสน บิดาของ "โปรพราว" ชเนตตี วรรณแสน เปิดเผยว่า ตนรู้สึกปลาบปลื้มดีใจ และภูมิใจที่บุตรสาวได้สร้างชื่อเสียงให้ทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทย และจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้พาน้องพราวไปที่สนามกอล์ฟทุกวัน ตั้งแต่ 9 ขวบ และเลี้ยงดูด้วยการให้มีความคิดเป็นของตัวเอง ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว เพื่อประเทศชาติและส่วนรวมด้วยความอดทน วันนี้จึงขอบคุณชาวไทยที่ร่วมเชียร์ ขอขอบคุณชาวเชียงใหม่ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และขอบคุณทุกกำลังใจที่สนับสนุนมาโดยตลอดจนสำเร็จในวันนี้ สำหรับการแข่งขันกอล์ฟ ระดับแอลพีจีเอทัวร์ รายการ "พอร์ตแลนด์ คลาสสิก" ที่โคลัมเบีย เอดจ์วอเตอร์ คันทรี คลับ เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในวันสุดท้าย ซึ่งโปรพราวเพิ่งเริ่มเทิร์นโปรในปีนี้เป็นปีแรก โดบทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พลิกฟอร์มจากการไม่ผ่านตัดตัว 9 รายการติดต่อกัน กลับมาโชว์ฟอร์มร้อนแรง จนคว้าแชมป์แรกในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ได้สำเร็จ พร้อมทำสถิติสกอร์ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์รายการนี้ จากการทำ 7 เบอร์ดี้ 1 อีเกิ้ล โดยไม่เสียโบกี้เลย สกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ 63 ในวันสุดท้าย สกอร์รวม 4 วัน 26 อันเดอร์พาร์ 262 คว้าแชมป์ไปครอง ทิ้งอันดับ 2 อย่าง หลิน ซีหยู จากจีน 4 สโตรก รับเงินรางวัลไปนอนกอด 225,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 7.9 ล้านบาท จากการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 3 ของแอลพีจีเอทัวร์ ที่ผ่านรอบควอลิฟาย และสามารถคว้าแชมป์ได้ และเป็นโปรกอล์ฟอายุน้อยสุดอันดับ 2 ที่ได้แชมป์ในปี 2023 ต่อจาก อเล็กซา ปาโน โปรกอล์ฟ อีกทั้งยังเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 7 ที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอได้สำเร็จอีกด้วย โดยหลังจากนี้ต้องเดินทางไปแข่งขันกอล์ฟอีก 7 รายการ ถึงจะได้กลับบ้านในเดือนพฤศจิกายน 2566