จังหวัดเชียงใหม่ อนุมัติการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยและอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม และจอมทอง พร้อมเน้นย้ำหากเกิดสถานการณ์อีกให้ท้องถิ่นเร่งช่วยเหลือประชาชนทันทีแก้ปัญหาความล่าช้า

วันที่บันทึก :26/08/2023

วันที่ 24 ส.ค. 66 ที่ ห้องประชุม 1 ขั้น 2 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดเชียงใหม่ (ก.ช.ภ.จ.เชียงใหม่) ครั้งที่ 7/2566 เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ภายหลังจังหวัดเชียงใหม่ได้เกิดเหตุวาตภัยในห้วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2566 ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 9 อำเภอ 20 ตำบล 126 หมู่บ้าน และเกิดอุทกภัยในห้วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2566 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ 13 ตำบล 93 หมู่บ้าน โดยคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบให้ความช่วยเหลือกรณีเหตุวาตภัยในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 มีเกษตรกรที่ปลูกฟักทองและหอมแดงได้รับความเดือดร้อนจำนวน 9 ราย พื้นที่เสียหายกว่า 17 ไร่ 3 งาน จำนวนเงิน 35,145 บาท และในพื้นที่ตำบลแม่สอย อำเภอจอมทอง ซึ่งเกิดภัยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 มีเกษตรกรผู้ปลูกไม้ผลไม้ยืนต้นได้รับความเดือดร้อน 147 ราย พื้นที่เสียหายกว่า 218.25 ไร่ จำนวนเงิน 883,476 บาท ส่วนที่ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง มีเกษตรกรผู้ปลูกไม้ผลไม้ยืนต้นได้รับความเดือดร้อน 30 ราย มีพื้นที่เสียหายกว่า 29.5 ไร่ ที่ประชุมจึงให้เทศบาลตำบลบ้านแปะ เป็นผู้ให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยเนื่องจากทางเทศบาลฯ มีงบประมาณเพียงพอในการช่วยเหลือ ทำให้สามารถบริหารจัดการช่วยเหลือเกษตรกรได้ทันที เป็นการแก้ปัญหาความล่าช้า ในส่วนภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) คณะกรรมการได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบการสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือค่าวัสดุสำหรับการจัดทำเอกสารผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม อมก๋อย และดอยเต่า ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ดำเนินการเบิกจ่าย จำนวนเงิน 4,900 บาท ทั้งนี้ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำหน่วยงานในท้องถิ่นกรณีเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติฉุกเฉิน หากท้องถิ่นใดมีศักยภาพเพียงพอขอให้เข้าให้การช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนโดยไม่ต้องรอจังหวัด เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างทัน